ถ่ายพรีเวดดิ้ง เพื่ออะไร? อดีตทำไมถึงสำคัญ ปัจจุบันสำคัญไหม?

คำถามนี้ เป็นคำถามง่ายๆ แต่ก็ตอบยาก อยู่น่ะครับ เพราะปัจจุบันความหลากหลายในการใช้ชีวิต มีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน อีกทั้งงบประมาณแต่ล่ะคนก็ไม่เท่ากัน เดี๋ยว พี่เทพ จะตอบแบบง่ายๆ ให้ เจ้าสาวเจ้าบ่าวป้ายแดง ได้อ่านเป็นแนวทาง เพื่อนำไปปรับใช้น่ะครับ

1. เพื่อใช้เป็นภาพหน้างาน สำหรับโชว์แขก

ว่ามาถูกงานและได้ถ่ายรูปกับทางเข้างานสวยๆ ที่ติดรูปคู่ของเจ้าบ่าวเจ้าสาว

❤️ ในอดีตคนไม่ค่อยได้ถ่ายรูปคู่กันแบบจริงจัง เพราะไปเที่ยวกันสองคน ส่วนใหญ่ผลัดกันถ่ายมากกว่า กล้องมีคุณภาพต่ำเนื่องจากกล้องดีๆราคาแพงมาก ประกอบกับฉากสวยๆ หายาก ไหนจะเรื่องชุด เรื่องหน้า เรื่องผมอีก ทำให้เกิดอาชีพพรีเวดดิ้งขึ้น เพื่อการถ่ายแบบจริงจังแต่ง่ายขึ้น

💗ปัจจุบัน กล้องมือถือคุณภาพก็ไม่ธรรมดาแล้ว อุปกรณ์เซลฟี่แบบหมุนตามโฟกัส ก็ราคาไม่แพง ที่เที่ยวที่ถ่ายรูปก็เยอะ ไม่คิดอะไรมาก ผนังสวยๆ ตามห้างก็มี คาเฟ่ก็มี ชุดก็มีให้เช่า ยุ่งยากหน่อย แต่ก็สบายกระเป๋า ถ้าไม่ได้คาดหวังความเป๊ะมากมาย ออกแนวมินิมอล ปัจจุบันหลายๆคู่ก็นำงบพรี ไปเหมาเข่งกับงานวันจริง ก็มี

2. เพื่ออัดกรอบ เก็บไว้ประดับบ้าน

เป็นเรื่องปกติที่หลายๆ คู่รักก็อยากได้ภาพสวยๆ ที่เราสองคนได้สวีดหวานกันอยู่บนข้างฝาบ้าน ไว้โชว์แขกเวลามาบ้าน หรืออย่างน้อยก็เป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้านไปในตัว

❤️ ในอดีต การจะได้ภาพสวยๆ เป๊ะเว่อร์ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม แบบดารานางแบบ แทบจะไม่มีอยู่แล้ว พอเจ้าสาวได้ภาพพรี แบบจัดเต็ม แต่งหน้าแต่งตา สวยกว่าปกติ จึงไม่แปลกที่จะเห็นคู่รักรุ่นพี่ๆ จะนิยมเอารูปแต่งงานติดฝาบ้าน

💗 ปัจจุบัน รูปในมือถือคุณผู้หญิงทั้งหลาย เมมเต็มกันไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว ชุดก็ไม่ซ้ำ แต่งหน้าแต่งตา ก็ไม่ใช่แค่รองพื้นกับเขียนคิ้วทาปาก เหมือนในอดีต เรียกว่าแต่หน้าไปข้างนอก กับแต่งหน้าไปงาน ต่างกันไม่มากเลย ถ้าไม่ใช่ความรู้สึกที่มีความสุขกับการได้เห็นรูปคู่แบบจัดเต็ม อารมณ์พรีเวดดิ้ง อัดกรอบรูปคู่ที่ไปเที่ยวก็พอได้อยู่

3. เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

ข้อนี้มีประเด็นขึ้นมาอีกขั้น เพราะเป็นเหตุผลทางความรู้สึก เชื่อว่าคู่บ่าวสาวทุกคู่ ต้องเคยได้เห็นภาพงานแต่งของคุณพ่อคุณแม่ มากันแทบทุกคู่ จะเห็นได้ว่า การเล่าเรื่องไม่เห็นภาพเท่า เห็นกับตา แต่เครื่องไทม์แมชชีนโดเรม่อน ก็ไม่ได้มีให้ใช้ นอกจาก รูปภาพ เท่านั้น ที่เป็นความทรงจำที่จับต้องได้

❤️ ในอดีต งานแต่งงานค่อนข้างวุ่นวาย การจะได้รูปคู่สวยๆ จึงเรียกว่าค่อนข้างยาก ไหนจะแขกที่มางาน ไหนจะต้องดำเนินการตามพิธีอีก การจะหวังแค่ภาพงานแต่ง จึงไม่ใช่หนทางที่ดีนัก เสร็จงานค่อยไปถ่ายฮันนีมูน ก็ไม่ได้โชว์แขกกันพอดี ในอดีตจึงต้องให้ความสำคัญกับการถ่ายพรีเวดดิ้งไว้เป็นอันดับแรกๆ ว่านี่จะเป็นภาพความทรงจำ ที่สำคัญ หลายๆ คู่ จึงให้งบกับพรีเวดดิ้ง เรียกว่าไม่น้อยเลยทีเดียว

💗 ปัจจุบัน งานแต่งงานมีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น มีทั้งจัดเอง ออแกไนซ์ หรือโรงแรมและสถานที่สำหรับงานแต่ง จัดให้ มุมถ่ายภาพก็มีมากขึ้น ช่างภาพฝีมือดีๆ ก็มีมากขึ้น หลายๆ คู่ก็เลย รวบพรีเวดดิ้ง มางานวันจริงเลยก็มี ถ่ายคู่ก่อนงานเริ่มก็ได้ ถ้ากลัวภาพไม่เป๊ะปัง ประหยัดได้ทั้งค่าเช่าชุด ค่าแต่งหน้า ค่าช่างภาพ บางคู่ถ่ายสดๆ ให้ช่างภาพแต่งภาพนิดหน่อย เสียบแฟรชไดร์ฟทีวีหน้างานเลยก็มีหรืออยากได้ภาพคู่กับสถานที่สวยๆ หลังงานแต่งถ้าได้ไปฮันนีมูน ค่อยถ่ายรูป ลงโซเชียลก็ไม่สาย แต่งรูปเสร็จค่อยอัดอัลบั้มเก็บไว้ดูเป็นความทรงจำ ก็ไม่สาย ความยืดหยุ่นมีมากขึ้น ในปัจจุบัน

สรุปมาถึงตรงนี้ : การถ่ายพรีเวดดิ้ง เพื่ออะไร?

หลักๆ ก็ 3 ข้อด้านบน หรืออีกข้อหนึ่งที่ไม่ได้กล่าวไว้ ก็คือ ถ่ายเพราะคิดว่า มันเป็นขั้นตอนในการลั่นประตูวิวาห์ หรืออีกข้อ เป็นมุกเด็ด ที่ร้านพรีเวดดิ้ง ชอบใช้ คือ เป็นเหมือนการซ้อมใช่ชุดเจ้าสาว การซ้อมแต่งหน้าลุคนี้ว่าเข้ากับเราไหม?

แล้วเรื่องความสำคัญล่ะ ปัจจุบันการถ่ายพรีเวดดิ้ง ยังสำคัญอยู่ไหม?

ก็อย่างที่พี่เทพเล่าเรื่องแทรกเข้าไป ความสำคัญน้อยลง ลำดับเวลายืดหยุ่นมากขึ้น งบประมาณ สามารถกำหนด และ ปรับแผนได้มากขึ้นกว่าในอดีต

แต่ถ้าถามหาความเพอร์เฟ็ค ความสมบูรณ์แบบ แน่นอนว่า การถ่ายพรีเวดดิ้งยังมีความสำคัญ ไม่ใช่น้อย เพราะภาพที่ดูดี ต้องมีองค์ประกอบหลายส่วน ตั้งแต่ ความพร้อม ความสดชื่นของคู่บ่าวสาว วิว ฉาก แสงหรือไฟ การแต่งหน้าทำผม ชุดแต่งงานหรือชุดที่ใส่ ความสามารถของช่างภาพ การแต่งภาพ บรรยากาศในวันที่ถ่าย ล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น

หนืออื่นสิ่งใด คือ อารมณ์ที่แสดงออกถึงความสุขในเวลานั้น อารมณ์ที่ดีและสุกงอมที่สุดในความรักของผู้หญิง คือ อารมณ์ที่กำลังเปิดประตูวิวาห์ นี่คือที่มาของการถ่ายพรีเวดดิ้ง

มาถึงตรงนี้ พี่เทพ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะพอเป็นแนวทาง ให้คู่รักป้ายแดง ได้ปรึกษาหารือกัน ถึงลำดับความสำคัญ การแบ่งงบประมาณให้เหมาะสม สำหรับคู่รักที่มีงบประมาณ ก็จัดเต็มกันได้ตามอัธยาศัย ถ้างบไม่มาก บัตรเครดิตในมือไม่ต้องสั่น มันพอลดสเป๊กกันได้ หรือรวบมาวันงานได้ แค่จัดสรรให้ดี หรือ เลื่อนก่อน เลื่อนหลังได้ อย่าเอาเป็นเอาตาย กับสายตาคนอื่นให้มากนัก สุดท้ายชีวิตคู่จะมีความสุข หรือไม่ อยู่ที่คนสองคน น่ะจ๊ะ.

แขร์บทความนี้